ดิดิเยร์ เดสช็องส์ กุนซือทีมชาติฝรั่งเศส เผยลูกทีมต้องมีความเฉียบคมมากกว่านี้ หลังทำได้แค่เสมอกับ โปแลนด์ 1-1 พร้อมเปิดเผยเพิ่มเติมว่า คิลิยัน เอ็มบัปเป้ หอกกัปตันทีม เจออุปสรรคจากหน้ากากทำให้เหงื่อเข้าตา
โดยตัวของ คิลิยัน เอ็มบับเป้ ได้ลงเล่นเป็นนัดแรกให้กับ ทีมชาติฝรั่งเศส หลังจมูกหัก และได้อยู่ในสนามเต็มเวลาโดยช่วงครึ่งหลังทำ 1 ประตูจากจุดโทษ แต่ท้ายเกมโดน โปแลนด์ ที่ได้ประตูจาก โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ สังหารจุดโทษคืน
ซึ่งตัว เดสช็องส์ สัมภาษณ์ก่อนเกมยอมรับหน้ากากที่ เอ็มบัปเป้ ใส่รบกวนการมองเห็นและมีเหงื่อเข้าตาจำเป็นต้องเปิดหน้ากากเช็ดออก
ทั้งนี้ ดิดิเยร์ เดสช็องส์ กล่าวว่า “เอ็มบัปเป้ กระหายที่จะลงเล่น และผมคิดว่าการได้ลงสนามจะเป็นเรื่องดีสำหรับเขา แต่หนึ่งสัปดาห์หลังอาการเจ็บ มันคือช่วงเวลาที่ซับซ้อน”
“วันนี้ผมคิดว่า เอ็มบัปเป้ ใช้เท้าได้ค่อนข้างดี แต่เขาจำเป็นต้องปรับตัวกับหน้ากาก เพราะเมื่อมีเหงื่อไหล มันจะเข้าตาและทำให้ต้องต้องใช้มือเช็ดออก”
แม้ทั้งเกมจะเป็น ฝรั่งเศส ครองบอลเยอะกว่า แต่ทำได้แค่เสมอทีมบ๊วยของกลุ่มอดคว้าแชมป์กลุ่ม ทาง เดสช็องส์ ไม่รู้สึกผิดหวังในผลงานลูกทีม
“ผมมองโลกในแง่ดีเสมอ และไม่รู้สึกผิดหวังแม้แต่น้อย แน่นอนว่าเราต้องการเป็นแชมป์กลุ่ม แต่เราไม่ได้ใช้โอกาสที่มีอย่างเฉียบคมที่สุด” เดสช็องส์ กล่าวเสริม
“เรามีโอกาส 5 ครั้งในครึ่งแรก แต่มันไม่ใช่แค่ความเฉียบคม คุณต้องให้เครดิตกับผู้รักษาประตูคู่แข่งที่โชว์ฟอร์มยอดเยี่ยม และมีลูกเซฟหลายครั้ง”
“วันนี้เราต้องใช้การต่อบอลบนพื้นอย่างรวดดเร็ว คุณไม่มีทางชนะลูกกลางอากาศในการเจอ โปแลนด์ ชัดเจนว่าเราต้องพัฒนาเรื่องความเฉียบคม แต่ผมจะกังวลมากกว่า หากเราไม่สามารถสร้างโอกาสได้เลย”
“มันเป็นเรื่องจริงที่การทำประตูไม่ได้ ทำให้ฟอร์มเราดูด้อยลง เราต้องยิงประตูให้มากกว่านี้ แต่สุดท้ายเราผ่านกลุ่มที่ยากมาก เพื่อเข้ารอบ 16 ทีม ตอนนี้เราได้จะใช้เวลาพักฟื้นเพื่อเตรียมตัวนัดต่อไป”