ถือเป็นประเด็นที่น่าสนใจอีกอย่างหนึ่ง ที่หลายคนมักจะพูดถึงเป็นประจำว่า ทำไม สารัช อยู่เย็น ถึงได้โอกาสลงสนามให้ทีมชาติไทย อย่างต่อเนื่อง และแฟนบอลหลายคนก็เชียร์ ให้โค้ชใช้คนอื่นแทนที่ของเขา
ตลอดช่วงเวลา 5-6 ปี หลัง สารัช อยู่เย็น ถือเป็นกองกลางตัวหลักของทีมชาติไทย มาโดยตลอด ไล่ตั้งแต่สมัยของ “ซิโก้” เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง, มิโลวาน ราเยวัช, ศิริศักดิ์ ยอดญาติไทย, อากิระ นิชิโนะ จนมาถึง มาโน โพลกิ้ง โค้ชเหล่านี้เห็นอะไรในตัว “เจ้าตัง” และทำไม ถึงส่งเขาลงสนามให้กับทีมชาติไทยตลอดเวลา
แฟนบอลหลายคนต่างสงสัย และเราจะเห็นได้จากคอมเมนต์มากมาย ว่าโค้ชน่าจะลองคนอื่นบ้าง โดยเฉพาะในยุคที่ ทีมชาติไทย มีกองกลางดีๆ ก้าวขึ้นมามากมาย ไล่ตั้งแต่ พิธิวัตต์ สุขจิตธรรมกุล, ธนวัฒน์ ซึ้งจิตถาวร, ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์, ปกเกล้า อนันต์ และอีกมากมาย
ก่อนอื่นเรามาพูดถึงบทบาทของ สารัช กันก่อน เพราะหลายคนมองว่าเขาไมได้มีข้อดีอะไรเลย จะตัดเกมก็ไมได้ชัดเจน, จะเติมเกมรุก ก็ไม่ได้มีแอสซิสต์ หรือมีประตู มากมาย แต่ทีมชาติไทย ในหลายยุคสมัยก็ขาดเขาไม่ได้
หน้าที่หลักในสนามของ สารัช คืออะไร ทำไมโค้ชหลายคนถึงชอบ คำตอบก็คือ การเคลื่อนที่ยามไม่มีบอล การสร้างเกมจากแดนหลัง การเปลี่ยนแกนการโจมตี การรู้จังหวะบอลเร็ว บอลช้า นี่คือหน้าที่หลักสำคัญ เขาไม่จำเป็นต้องวิ่งไปถึงสุดเส้น เพื่อไปแอสซิสต์ หรือเติมไปหน้าเขตโทษ เพื่อยิงไกล แต่นี่คือสิ่งหนึ่งที่จะขาดไม่ได้
แล้ว เกมรับล่ะ เราอาจจะไม่ได้เห็นสารัช ในภาพที่ สไลด์ตัดบอลแบบบ้าคลั่ง แบบชัดเจน แต่หน้าที่ของเขาคือดีเลย์เกม เพื่อให้ทีมสามารถจัดระเบียบเกมรับในช่วงเวลาที่เขาพยายามดีเลย์
หลายคนอาจจะติดภาพว่านักฟุตบอลจะต้องเคลื่อนไหวเยอะ วิ่งตลอดเวลา มีความฟิตสูง แต่บางครั้งก็อาจจะต้องมีนักเตะสักคนที่มีความเข้าใจเกม ดึงบางจังหวะให้เร็วให้ช้าลงบ้าง เพื่อให้ทีมรักษาสมดุลของเกม รักษาระดับความฟิต เล่นได้ตลอด 90 นาที
เพราะเกมฟุตบอล มันเล่นกันทั้งหมด 11 คน บางครั้ง มันไม่จำเป็นที่ทุกคนที่จะต้องแสดงความโดดเด่นออกมาเสมอ แต่อาจจะต้องมีใครสักคนแบบ สารัช ที่ต้องคอยเป็นผู้ปิดทองหลังพระ บางทีการดูเงียบๆ แต่บทบาทของเขาก็สำคัญ และโค้ชหลายคนก็คงมองเห็นตรงนั้น และทำให้ สารัช ได้โอกาสลงเล่นเป็นตัวจริงอย่างต่อเนื่องให้กับทีมชาติไทย ไม่ว่าจะเปลี่ยน โค้ชไปกี่คนก็ตาม
