นิ๊กกี้ บัตต์ อดีตแข้ง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มองว่า อังเกล โกเมส ไม่เหมาะสมกับแผนการเล่นในปัจจุบันของ “ปีศาจแดง” แม้ว่ากองกลางรายนี้จะหนึ่งในแข้งดาวรุ่งที่เขายอมรับในฝีเท้าก็ตาม
ผลผลิตจากอะคาเดมีของปีศาจแดง อังเกล โกเมส วัย 22 ปี ประสบความสำเร็จอย่างมากนับตั้งแต่ย้ายออกจาก โอลด์ แทรฟฟอร์ด ไปร่วมทีม ลีลล์ เมื่อปี 2020 และได้ลงประเดิมสนามให้กับทีมชาติอังกฤษไปแล้วในช่วงเบรกทีมชาติที่ผ่านมา
อังเกล โกเมส ตกเป็นข่าวเชื่อมโยงกับการกลับมาเล่นใน พรีเมียร์ลีก อีกครั้งนับตั้งแต่ได้รับโอกาสติดทีมชาติชุดใหญ่เป็นครั้งแรก แต่ถึงแม้ว่าจะเป็นเด็กปั้นของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มาก่อน แต่ทาง บัตต์ รู้สึกว่าด้วยแผนการเล่นของสโมสรในปัจจุบันทำให้ โกเมส ควรมองหาสโมสรชั้นนำอื่นในก้าวต่อไปของอาชีพแทน
“ผมคิดว่าเขาจะสามารถทำได้ดีกับหลายๆ ทีมหาได้กลับมาเล่นใน พรีเมียร์ลีก” นิ๊กกี้ บัตต์ กล่าวกับ PA
“ที่สเปนนั้นเต็มไปด้วยเรื่องราวของ อังเกล เขาสามารถเล่นในพรีเมียร์ลีกได้สบายๆ แม้กระทั่งกับทีมอย่าง ซิตี้”
“เมื่อครั้งที่ อังเกล ออกจาก ยูไนเต็ด ผมบอกกับเขาว่า ‘นายจะก้าวต่อไปและมีอาชีพค้าแข้งที่เหลือเชื่อ และฉันจะไม่แปลกใจเลยถ้านายจะได้ลงเล่นพบกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ให้กับทีมอย่าง บาร์เซโลน่า หรือ เรอัล มาดริด ในอีกห้าหกเจ็ดปีข้างหน้า’ เพราะเขาเป็นเด็กที่เก่งถึงขนาดนั้น”
“และผมไม่ได้แค่พูดแบบนั้นตอนนี้ที่เขาได้ลงเล่นในทีมชาติอังกฤษเป็นครั้งแรก ผมคิดแบบนั้นมานานแล้ว”
“เขาสามารถเล่นในพรีเมียร์ลีกได้อย่างสบายๆ เขาสามารถเล่นให้กับทีมอย่าง แมนฯ ซิตี้ ได้เลย แต่หากคุณให้เขาไปอยู่กับ แมนฯ ยูไนเต็ด ในตอนนี้ เขาต้องมีกำลังมากพอที่จะดูแลแดนกลางที่มีพื้นที่ว่างขนาดใหญ่”
“คู่ต่อสู้ทะลุผ่านแดนกลางของ แมนฯ ยูไนเต็ด อย่างที่คุณแทบไม่เชื่อสายตา ถึงตอนนั้นเกมนั้นก็จะกลายเป็นเกมที่ยากสำหรับเขาจริงๆ”
นิ๊กกี้ บัตต์ ยังเปิดเผยอีกว่า โกเมส ส่งข้อความขอบคุณเขา ก่อนที่เขาจะได้ลงสนามให้กับทีมชาติอังกฤษเป็นครั้งแรกเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา ซึ่งเขาบอกว่าข้อความนี้บ่งบอกลักษณะนิสัยของแข้งดาวรุ่งรายนี้ได้เป็นอย่างดี
“ผมคิดว่าเขาส่งข้อความถึงหลายๆ คน เขาเป็นเด็กที่น่ารักมาก” นิ๊กกี้ บัตต์ กล่าว
“มันเป็นข้อความว่า ‘ขอบคุณครับ การลงสนามครั้งแรกครั้งนี้เป็นผลงานของหลายๆ คน และนายก็เป็นหนึ่งในนั้น’ มันดีมากจริงๆ เขาส่งข้อความนั้นถึงโค้ชทุกคนที่เขาเคยร่วมงานด้วยที่ ยูไนเต็ด และที่อื่นๆ ไม่ใช่แค่ผมคนเดียว”