ข่าวฟุตบอลวิเคราะห์ผลบอล แมนเชสเตอร์ ซิตี้ VS แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด l 3.6.2023
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

“ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ส่อให้ มาร์คัส แรชฟอร์ด ยืนเป็นกองหน้าตัวเป้าเพื่อล่าตาข่าย “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ พร้อมคืนทัพใหญ่ให้ เออร์ลิ่ง ฮาลันด์ กลับมาสวมบทเป็นหัวหอกในศึกเอฟเอ คัพ รอบชิงชนะเลิศ คืนวันที่ 3 มิ.ย.นี้

ความพร้อมของทั้งสองทีม แมนเชสเตอร์ ซิตี้ VS แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในศึกเอฟเอ คัพ รอบชิงชนะเลิศ

เอฟเอ คัพ รอบชิงชนะเลิศ
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ VS แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
สนาม : เวมบลีย์ สเตเดี้ยม
เวลา : 21.00 น.

แมนเชสเตอร์ ซิตี้
เส้นทางสู่รอบชิงชนะเลิศ
รอบ 3 : ชนะ เชลซี 4-0 (เหย้า)
รอบ 4 : ชนะ อาร์เซนอล 1-0 (เหย้า)
รอบ 5 : ชนะ บริสตอล ซิตี้ 3-0 (เยือน)
รอบ 8 ทีมสุดท้าย : ชนะ เบิรน์ลีย์ 6-0 (เหย้า)
รอบรองชนะเลิศ : ชนะ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด 3-0 (สนามกลาง)

คาดว่ากุนซือ “เป๊ป” โจเซฟ กวาร์ดิโอล่า จะปรับทัพบางตำแหน่ง เพื่อลุ้นเก็บชัยคว้าแชมป์ฟุตบอลถ้วยรายการที่ 2 ของฤดูกาลนี้ไปเลย หลังจากที่คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกมาได้แล้วหนึ่งรายการ และจะได้ต่อยอดไปสู่การเข้าป้าย “ทริปเปิ้ลแชมป์” เพราะยังมีโอกาสยึดบัลลังก์ “เจ้าสโมสรยุโรป” ในฐานะแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ได้อยู่เหมือนกัน จึงพร้อมให้พวกแข้งหลักกลับมาลงสนามทั้งหมดเลย เพราะว่าแทบจะไม่มีปัญหานักเตะได้รับบาดเจ็บเลยด้วย แนวรับน่าจะได้ มานูเอล อคานยี่ หายเจ็บกลับมายืนเป็นกองหลัง เช่นเดียวกับ รูเบน ดิอาส ซึ่งน่าจะผ่านความฟิตเพื่อกลับมาลงเล่นเป็นตัวจริงร่วมกับ นาธาน อาเก้ แดนกลางส่อให้ จอห์น สโตนส์ ขยับจากกองหลังขึ้นไปยืนคุมเกมร่วมกับ โรดรี้ แนวรุกพร้อมให้ เออร์ลิ่ง ฮาลันด์ กลับมาสวมบทเป็นกองหน้าตัวเป้าอย่างแน่นอน เพื่อประสานงานกับ เควิน เดอ บรอยน์ เตรียมได้ทำหน้าที่เป็นเพลย์เมกเกอร์ในฐานะตัวปั้นเกม เชนเดียวกับ อิลคาย กุนโดกาน ส่วนปีกซ้ายพร้อมให้ แจ็ค กรีลิช ลงไปยืนประจำการ โดยจะยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามกับ ริยาด มาห์เรซ เตรียมลงไปยืนเป็นปีกขวา

11 นักเตะที่คาดว่าจะลงสนามเป็นตัวจริงตามแผนการเล่นแบบ 3-2-4-1
เอแดร์ซอน โมราเอส, มานูเอล อคานยี่, รูเบน ดิอาส, นาธาน อาเก้, โรดรี้, จอห์น สโตนส์, อิลคาย กุนโดกาน, เควิน เดอ บรอยน์, แจ็ค กรีลิช, ริยาด มาห์เรซ, เออร์ลิ่ง ฮาลันด์

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
เส้นทางสู่รอบชิงชนะเลิศ
รอบ 3 : ชนะ เอฟเวอร์ตัน 3-1 (เหย้า)
รอบ 4 : ชนะ เรดดิ้ง 3-1 (เหย้า)
รอบ 5 : ชนะ เวสต์แฮม 3-1 (เหย้า)
รอบ 8 ทีมสุดท้าย : ชนะ ฟูแล่ม 3-1 (เหย้า)
รอบรองชนะเลิศ : เสมอ ไบรท์ตัน 0-0 (สนามกลาง) – แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ชนะช่วงดวลจุดโทษตัดสิน 7-6

คาดว่ากุนซือ เอริค เทน ฮาก จะปรับทัพบางตำแหน่ง เพื่อลุ้นเก็บชัยคว้าแชมป์ฟุตบอลถ้วยรายการที่ 2 ของฤดูกาลนี้ไปเลย หลังจากที่คว้าแชมป์คาราบาว คัพ มาได้แล้วหนึ่งรายการ และสามารถเข้าป้าย “ท็อปโฟร์” ใน 4 อันดับแรกบนตารางคะแนนพรีเมียร์ลีกได้ตามเป้าแล้วด้วย แม้จะหมดสิทธิ์ใช้งานนักเตะหลายคน แต่ว่าเป็นพวกหน้าเดิมๆ ที่ต้องพักรักษาอาการบาดเจ็บต่อไป จึงพร้อมให้พวกแข้งหลักออกสตาร์ทเป็นตัวจริงเหมือนเช่นเคย แนวรับเตรียมได้เห็น ราฟาเอล วาราน กลับมายืนเป็นกองหลังคู่กับ วิคเตอร์ ลินเดเลิฟ เนื่องจาก ลิซานโดร มาร์ติเนซ ยังอยู่ในช่วงฟื้นฟูสภาพร่างกายจากการผ่าตัดข้อเท้า แดนกลางพร้อมให้ คริสเตียน อีริคเซ่น กลับมายืนคุมเกมร่วมกับ คาเซมิโร่ แนวรุกหมดสิทธิ์ใช้งาน แอนโทนี่ และ อองโตนี่ มาร์กซิยัล ยังไม่หายจากอาการบาดเจ็บ แต่พร้อมให้ บรูโน่ แฟร์นันเดส สวมบทเป็นเพลย์เมกเกอร์ในฐานะตัวปั้นเกมเหมือนเดิม ส่วนตัวริมเส้นฝั่งซ้ายพร้อมให้ อเลฮานโดร การ์นาโช่ ลงไปยืนประจำการ โดยจะยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามกับ จาดอน ซานโซ่ ซึ่งพร้อมสวมบทเป็นตัวริมเส้นฝั่งขวา และพร้อมให้ มาร์คัส แรชฟอร์ด ลงไปสวมบทเป็นกองหน้าตัวเป้าด้วยเช่นกัน

11 นักเตะที่คาดว่าจะลงสนามเป็นตัวจริงตามแผนการเล่นแบบ 4-2-3-1
ดาบิด เด เคอา, วิคเตอร์ ลินเดเลิฟ, ราฟาเอล วาราน, ดิโอโก้ ดาโลท์, ลุค ชอว์, คาเซมิโร่, คริสเตียน อีริคเซ่น, จาดอน ซานโช่, อเลฮานโดร การ์นาโช่, บรูโน่ แฟร์นันเดส, มาร์คัส แรชฟอร์ด

ผลที่คาด : แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ชนะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 2-1