ปิแอร์ลุยจิ คอลลิน่า อดีตผู้ตัดสินชื่อดังชาวอิตาลี คือผู้ที่อยู่เบื้องหลังการทดเวลาบาดเจ็บในศึกฟุตบอลโลก 2022 นานกว่าปกติ เพราะต้องการให้เกิดความยุติธรรมกับทั้งสองทีม
ศึก ฟุตบอลโลก 2022 ในรอบแบ่งกลุ่ม นัดแรก ที่แข่งขันกันเมื่อคืนที่ผ่านมาทั้ง 3 คู่ มีสถิติที่น่าสนใจอยู่ที่ มีการทดเวลาบาดเจ็บรวมกันแล้วเป็น 50 นาที ซึ่งผู้ที่ผลักดันให้มีการเปลี่ยนกฎการทดเวลาบาดเจ็บคือ ปิแอร์ลุยจิ คอลลิน่า อดีตผู้ตัดสินชื่อดังชาวอิตาลี
ทั้งนี้เกมระหว่าง ทีมชาติอังกฤษ กับ ทีมชาติอิหร่าน มีการทดเวลาบาดเจ็บไปทั้งหมด 27 นาที (ครึ่งแรก 14 ครึ่งหลัง 13 นาที), เซเนกัล กับ เนเธอร์แลนด์ 10 นาที (ครึ่งแรก 2 ครึ่งหลัง 8) และเวลส์ กับ สหรัฐอเมริกา ทดเวลาบาดเจ็บรวม 13 นาที (ครึ่งแรก 4 ครึ่งหลัง 9)
โดย คอลลิน่า ที่ทำหน้าที่เป็นประธานคณะกรรมการผู้ตัดสินของสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือ ฟีฟ่า ได้ปรับเปลี่ยนกฎการทดเวลาบาดเจ็บ เพราะมองว่าในระหว่างเกมมักจะมีการเสียเวลาไปกับเรื่องอื่นๆ ที่ทำให้เกมช้าลง เช่น การฉลองประตูที่นานเกินไป, การทุ่ม, การเตะเปิดเกม และการใช้แท็คติกถ่วงเวลา
สำหรับ คอลลิน่า พยายามที่ปรับกฎดังกล่าวมาตั้งแต่ศึกฟุตบอลโลก 2018 ที่รัสเซีย เนื่องจากเห็นว่าช่วงเวลาที่เตะในสนามจริงๆ มีเพียงนิดเดียวเท่านั้น ซึ่งหลังจากการหารือกัน คอลลิน่า และผู้ที่เกี่ยวข้อง จึงออกกฎดังกล่าว ที่จะชดเชยเวลาที่เสียไปให้เหมาะสมมากขึ้น นั่นคือทุกเหตุการณ์ที่ทำให้เกมหยุด จะถูกนำไปรับรวมเป็นช่วงทดเวลาบาดเจ็บทั้งหมดโดยไร้ข้อยกเว้น